ขั้นตอน
1. ผสมน้ำยางกับน้ำโดยอัตราส่วน 1:1 ถ้าเป็นน้ำยางที่ได้จากต้นยางอ่อนยังมีเปอร์เซ็นต์เนื้อยางแห้งต่ำอยู่อาจจะผสมส่วนของน้ำน้อยลงเหลือน้ำยาง 3 ส่วนต่อน้ำ 2 ส่วน โดยปริมาณก็ได้
2. นำส่วนผสมของน้ำยางนี้เทผ่านตะแกรงกรอง 2 ชั้น เบอร์ 40 และ 60
3. ตวงส่วนผสมของน้ำยางที่ผ่านการกรองแล้วนี้ใส่ในตะกงอลูมิเนียม ตะกงละ 5 ลิตร หรือกว่านิดหน่อย
4. ผสมน้ำกรดฟอร์มิค โดยใช้น้ำกรด 2 ช้อนสังกะสีต่อน้ำ 3 กระป๋องนม ใส่น้ำกรดที่ผสมแล้วนี้ 1 กระป๋องนมต่อน้ำยาง 1 ตะกง (น้ำกรดที่ผสมแล้วไม่ควรเก็บไว้เกิน 2 วัน)
5. ก่อนเทน้ำกรดที่ผสมแล้วใส่น้ำยางควรใช้ที่สำหรับกวนน้ำยาง พายกวนน้ำยางในตะกงที่จะใส่กรดสัก 1-2 เที่ยวก่อน แล้วจึงค่อย ๆ เทส่วนผสมของน้ำกรดลงไปตามความยาวของตะกง แล้วใช้ไม้พายกวนอีก 5-6 เที่ยว
6. ในระหว่างการกวนจะมีฟองอากาศเกิดขึ้นมากมาย ให้ช้อนฟองอากาศออกให้หมด ซึ่งฟองอากาศนี้สามารถทำน้ำขี้ยางชั้นดีได้
7. หลังจากตักฟองอากาสออกหมดแล้ว ควรปิดฝาตะกงเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกลงไป นำไปตั้งทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที ยางในตะกงก็จะแข็งตัว
8. เมื่อยางแข็งตัวดีแล้ว ก่อนนำไปแท่นนวดควรรินน้ำหล่อไว้ทุกตะกงเพื่อสะดวกในการเลาะยางออกจากข้างตะกง
9. คว่ำตะกงลงบนแท่นนวด ยางจะหลุดออกจากตะกง จากนั้นทำการนวดด้วยมือหรือไม้นวดก็ได้ตามถนัด นวดให้ยางเป็นแผ่นบางลงมีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร
10. นำยางที่นวดจนบางแล้วนี้ เข้าเครื่องรีดเรียบ 3 ครั้ง ให้แผ่นยางหนาประมาณ 3-4 มิลลิเมตร แล้วจึงนำเข้าเครื่องรีดดอก 1 ครั้ง จะได้ยางแผ่นดิบที่มีขนาดพอเหมาะ ความหนาประมาณ 2-3 มิลลิเมตร
11. นำยางที่ผ่านเครื่องรีดดอกแล้วไปล้างน้ำให้สะอาด โดยจุ่มลงในโอ่งหรือถังน้ำเพื่อล้างกรดออก ยางแผ่นที่ทำด้วยกรดฟอร์มิคควรแช่น้ำประมาณ 30 นาที แล้วจึงนำไปผึ่งลมในที่ร่ม ไม่มีฝุ่น อากาศถ่ายเทได้สะดวก เมื่อยางแห้งก็สามารถเก็บไว้ขายได้ หรือถ้าหากมีโรงรมควัน เมื่อน้ำหยุดไหลหลังจากผึ่งไว้สักครู่ก็สามารถนำเข้าโรงรมได้เลย ซึ่งจะใช้เวลาในการรมควันประมาณ 4 วัน ที่อุณหภูมิระหว่าง 110-145 องศาฟาเรนไฮต์ จะได้ยางที่สุกสม่ำเสมอ
2. นำส่วนผสมของน้ำยางนี้เทผ่านตะแกรงกรอง 2 ชั้น เบอร์ 40 และ 60
3. ตวงส่วนผสมของน้ำยางที่ผ่านการกรองแล้วนี้ใส่ในตะกงอลูมิเนียม ตะกงละ 5 ลิตร หรือกว่านิดหน่อย
4. ผสมน้ำกรดฟอร์มิค โดยใช้น้ำกรด 2 ช้อนสังกะสีต่อน้ำ 3 กระป๋องนม ใส่น้ำกรดที่ผสมแล้วนี้ 1 กระป๋องนมต่อน้ำยาง 1 ตะกง (น้ำกรดที่ผสมแล้วไม่ควรเก็บไว้เกิน 2 วัน)
5. ก่อนเทน้ำกรดที่ผสมแล้วใส่น้ำยางควรใช้ที่สำหรับกวนน้ำยาง พายกวนน้ำยางในตะกงที่จะใส่กรดสัก 1-2 เที่ยวก่อน แล้วจึงค่อย ๆ เทส่วนผสมของน้ำกรดลงไปตามความยาวของตะกง แล้วใช้ไม้พายกวนอีก 5-6 เที่ยว
6. ในระหว่างการกวนจะมีฟองอากาศเกิดขึ้นมากมาย ให้ช้อนฟองอากาศออกให้หมด ซึ่งฟองอากาศนี้สามารถทำน้ำขี้ยางชั้นดีได้
7. หลังจากตักฟองอากาสออกหมดแล้ว ควรปิดฝาตะกงเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกลงไป นำไปตั้งทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที ยางในตะกงก็จะแข็งตัว
8. เมื่อยางแข็งตัวดีแล้ว ก่อนนำไปแท่นนวดควรรินน้ำหล่อไว้ทุกตะกงเพื่อสะดวกในการเลาะยางออกจากข้างตะกง
9. คว่ำตะกงลงบนแท่นนวด ยางจะหลุดออกจากตะกง จากนั้นทำการนวดด้วยมือหรือไม้นวดก็ได้ตามถนัด นวดให้ยางเป็นแผ่นบางลงมีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร
10. นำยางที่นวดจนบางแล้วนี้ เข้าเครื่องรีดเรียบ 3 ครั้ง ให้แผ่นยางหนาประมาณ 3-4 มิลลิเมตร แล้วจึงนำเข้าเครื่องรีดดอก 1 ครั้ง จะได้ยางแผ่นดิบที่มีขนาดพอเหมาะ ความหนาประมาณ 2-3 มิลลิเมตร
11. นำยางที่ผ่านเครื่องรีดดอกแล้วไปล้างน้ำให้สะอาด โดยจุ่มลงในโอ่งหรือถังน้ำเพื่อล้างกรดออก ยางแผ่นที่ทำด้วยกรดฟอร์มิคควรแช่น้ำประมาณ 30 นาที แล้วจึงนำไปผึ่งลมในที่ร่ม ไม่มีฝุ่น อากาศถ่ายเทได้สะดวก เมื่อยางแห้งก็สามารถเก็บไว้ขายได้ หรือถ้าหากมีโรงรมควัน เมื่อน้ำหยุดไหลหลังจากผึ่งไว้สักครู่ก็สามารถนำเข้าโรงรมได้เลย ซึ่งจะใช้เวลาในการรมควันประมาณ 4 วัน ที่อุณหภูมิระหว่าง 110-145 องศาฟาเรนไฮต์ จะได้ยางที่สุกสม่ำเสมอ




